วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

My Favorite Artists/Brands



I never post about music before .So this is a begining


.
.
.
.
.
.
.
.
Twenty-one Pilots

Imagine Dragons

The Beatles

I like the others too but these is my lovely brands of all time//end

oh oh i forgot,I love Lukas Graham too.


Once I was 7 years old...

God damn I have forgot again I love "Of monster and men" too.I think this should end now bra bra bra


Batman vs Robin Review

Mini Movie Review


Batman Vs Robin (2015) (Jay Oliva) (B)

" I can't say it better than BatvSup but it good just good  "

เนื้อเรื่องมันลึกดีนะกับความสัมพันธ์พ่อลูก แต่มันยังไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าที่ควร สำหรับเราดูจบแล้วจบเลย นี่คือการ์ตูนแบทแมนคุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนตัวเราก็ไม่ได้ชอบไอ้เดเมี่ยนอยู่แล้ว พอเรื่องนี้มันกลายเป็นเด็กเปรตเราเลยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ แต่ดูจบเรากลับรักไอ้เดเมี่ยนขึ้นมานิดนึงเพราะเราว่าถ้ามันดีมันก็เท่นะ พอมันทำผิดนิดผิดหน่อยมันก็จะกลายเป็นเด็กเปรตเช่นกัน คาแลคเตอร์ของเรื่องนี้ดูสับสนๆนะ โดยเฉพาะบารอนที่เหมือนคนเขียนบทจะหาจุดจบแบบเป็นการเป็นงานไม่ได้ผลลัพท์มันเลยเละเทะไปหน่อย

Review By Waltherick


วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559

Barcelona Christmas Night Review

Mini Movie Review


Bacelona Christmas Night (2015) (Dani De la Orden)(A)

"Romantic romantic and romantic...I love this"


6 เรื่องราวของความรักในคืนวันคริสมาส ประกอบไปด้วย 

1.เพื่อนหนุ่มสองคนที่ถูกสาวสวยชวนซั่มสาม
2.สามีภรรยาที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนผิดใจกัน
3.หนุ่มพึ่งอกหักหนีรักมาบาร์เซฯเพื่อหวังฟัดสาวแก้ขัดแต่ครั้งนี้เหมือนพี่แกจะได้เจอรักแท้
4.หนุ่มใหญ่โดดหน้าที่การงานจากขบวนพาเรดเพื่อตามหาแฟนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมา 20 ปีโดยได้รับความช่วยเหลือจากนักข่าวสาวที่อยากได้รูปเขาไปส่งบก.
5.สองยายเลสเบี้ยนพี่ตั้งใจจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเธอให้ลูกหลานฟังในคืนวันคริสมาส
6.ชายแก่คนหนึ่งพึ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกกับสาวที่เคยคบกันเมื่อหลายปีก่อน

อบอุ่นโรแมนติคหวานหยดย้อนน้ำตาลร้อยก้อนมากๆ มันเป็นโรแมนติคที่สอนการดำเนินชีวิตได้ดีทีเดียว โทนหนังจะสลับไปมาระหว่างดราม่า-คอมเมดี้-โรแมนติคตลอดทั้งเรื่องซึ่งมันก็ครบรสดีตามหนังแนวนี้ พาร์ทที่เฉยและไม่ได้อะไรเลยก็คือพาร์ทของสองหนุ่มซั่มสามนี่แหละ ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่ ส่วนพาร์ทอื่นก็จะสอนแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ก็จะได้ความประมาณว่า " ความรักก็เหมือนเพลงพี่เบิร์ดน่ะแหละ...มันซ่อมได้ " บทพูดในตัวอย่างเหมือนจะมีการไม่เชื่อในความด้วย แต่พอดูเข้าจริงๆมันก็เป็นแค่คำพูดของคนที่ลืมคนรักไม่ได้ เพราะยิ่งลืมก็ยิ่งฝังลึก และดูจบก็ได้รู้ว่าคนคริสเขาให้ความสำคัญกับวันคริสมาสมากเลย อันที่จริงก็รู้มาบ้างแต่พอได้ดูหนังหลายๆเรื่องก็ถึงรู้ว่ามันเป็นวันครอบครัวมากๆ จนมีหนังเกี่ยวกับวันคริสมาสมาให้ดูวันเทศกาลทุกปี เหมือนประเทศไทยที่จะมีหนังช่วงสงกรานน่ะแหละ หนังเรื่องนี้โรแมนติคมากๆจนแอบคิดว่าไม่เหมาะกับการดูคนเดียวเลย แต่ไม่ใช่ให้มาดูเป็นคู่เพราะจะให้หวังซั่มหวังจีบหรือทำให้รักกันมากกว่าเดิมนะ แต่ที่อยากให้ดูเป็นคู่เพราะดูจบจะได้มีคนให้มองหน้าแล้วตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคต

Review By Waltherick

Diablo Review

Mini Movie Review


Diablo (2015) (Lawrence Roeck) (F)

"This is a real shit worst cowboy movies ever"

วอทเดอะฟัคอิสดิสชิททททททท พังมากๆ พังทุกอย่างทั้งการแสดง บท เนื้อเรื่อง แม่งยังดิ้นรนมีการหักมุมตอนท้านด้วย พังๆๆๆๆๆ งานภาพทำให้มันดูดีขึ้นมาเยอะเลยลดความเกรดบีไปมากเลย

Review By Waltherick

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

Standoff Review

Mini Movie Review


Standoff (Adam Alleca) (2016) (C+)

" Wannabe Psychology but it still be thriller "

เด็กสาวเผอิญไปเจอเหตุฆาตกรรมในสุสานแห่งหนึ่ง และเธอถ่ายรูปของคนร้ายมาได้จนถูกตามล่าโดยนักฆ่า เธอถูกนักฆ่าไล่ตามมาจนไปเจอบ้านของชายคนหนึ่งที่พึ่งสูญเสียลูกชาย และเขาสัญญาว่าจะปกป้องเธอจากคนฆ่าให้ได้ โดยที่ทั้งคู่ติดอยู่บนชั้นสองของบ้าน และนักฆ่าที่อยู่ชั้นล่างก็เริ่มทำสงครามจิตวิทยากับชายคนนั้น

พล็อตน่าสนใจใช่มั้ยยยยยย มันมีแค่นั้นแหละ ความกดดันของหนังแทบไม่มีเลย แต่สิ่งที่ทำให้ทนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบคือการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างลื่นไหล เพราะหนังมันเหมือนไม่ค่อยมีลูกเล่นแต่ก็พยายามเล่าจนเราคิดว่าดีแต่จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย สถานการณ์ต่างๆก็เดาง่ายแต่ก็ขยันใส่มา ทำให้มันห่างจากคำว่าแย่ไปนิดนึง เพราะพล็อตอย่างนี้น่าจะเอาไปทำหนังสั้นมากกว่า พอมันเป็นหนังยาวมันเลยรู้สึกว่ามันยืดๆ (หนังยาวก็สั้นนะ 80 กว่านาทีเอง)


Review By Waltherick

Dawn of Justice Review

Mini Movie Review


Batman v Superman:Dawn of Justice (Zack Snyder)(2016) (C+/B-)

" This is not Zack Snyder who directed Man of Steel but he is Zack Snyder? "

ขอออกตัวก่อนว่าชอบ Man of Steel มากๆ ถ้าพูดถึงตัวผู้กำกับอย่าง Zack Snyder เราเคยดูผลงานของพี่แกไม่กี่เรื่อง เราชอบ Watchmen แต่ก็เกลียด 300 เราว่าแกคงเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับโคตรป๊อปแน่นอนหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปเพราะเท่าที่เห็นคนดูสวดแกยับเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนมีคนพูดถึงแกแบบไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่(หรอก)

ความดิบของสไนเดอร์ใช้งานไม่ได้กับหนังฮีโร่เรื่องนี้ เพราะหนังพยายามทำให้หดหู่ตลอดเวลา แต่สุดท้ายผลลัพท์มันก็แค่ "โลกนี้มันโหดร้ายเนอะ....แต่ไม่เป็นไรเรามีฮีโร่" มีหนังเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นสำหรับเราที่สามารถนำมาเปรียบกับเรื่องนี้ได้ นั่นก็คือ Man of Steel ของเฮียแกเองนี่แหละ

จะพูดว่านี่คือ Man of Steel 2 ก็ไม่ได้ ยอมรับว่าหนังเจาะลึกตัวละครได้มีมิติทีเดียวโดยเฉพาะแบทแมน แต่ด้วยความอ่อนของบท สิ่งเหล่านี้เลยถูกทดแทนด้วยข้อเสียซะมากกว่า

บทอ่อน คือคำที่สุภาพที่สุดแล้ว ระหว่างดูแทบกุมขมับกับบทหนัง มันคือความล้มเหลวขั้นสุด ในขณะที่หนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Man of Steel ก็มีบทอะไรประมาณนี้แต่มันดูดีกว่ามาก ถึงจะยาวพอๆกันแต่ MOS เอาอยู่ได้ตลอดทั้งเรื่อง ต่างจากเรื่องนี้ที่แย่ยังไงก็แย่อยู่ยังงั้น "แย่แบบดิบๆไม่มีการปรุงแต่งใดๆทั้งนั้น" อาจ(x100)เป็นเพราะหนังถูกตัดด้วยละมั้ง(หวังให้เป็นอย่างนั้น) บทหนังเล่นง่ายมากในหลายฉากจะเรียกว่ามักง่ายก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ถ้าพูดถึงจะเป็นการสปอยแน่นอน แต่มันมักง่ายจริงๆจนบางครั้งแทบอย่างตะโกนในโรงว่า "แค่เนี้ย? ง่ายเนอะ"

ฉากแบทแมนกับซุปสู้กันคือตลกมาก สำหรับเราเราแทบสัมผัสความดิบของสไนเดอร์ไม่ได้เลยในฉากแอดชั่นเหมือนกับมันดิบไม่พอ มันยังดูซอร์ฟเกินไปจนดูตลกไปเลยรวมกับบทเอ๋อๆด้วย(เป็นเพราะถูกตัดอีกละมั้ง) เล็กซ์ ลูเธอร์ จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิต
ส่วนตัวไม่ได้อยากบอกว่าควรไปดูมั้ยหรอกมันต้องไปดูด้วยตาตัวเองจริงๆ เพราะถ้าจะให้เล่าความในใจทั้งหมด มันคงต้องมีการสปอยเกิดขึ้นแน่นอน

เหมือนอย่างที่พี่นักวิจารณ์คนนึงเคยบอกว่า ถ้าคุณรัก Man of Steel คุณจะเกลียดมัน และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

เฉยๆ = ผิดหวัง

ดิงๆๆๆๆๆๆๆๆ

Review By Waltherick